SSL CERTIFICATE ราคาถูก

SSL Certificate เป็นการรับรองตัวตนของเว็บไซต์ที่ทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจว่าเว็บไซต์นั้นมีความปลอดภัยและการเข้าถึงข้อมูลที่ปลอดภัย ด้วยเหตุนี้ SSL Certificate ถือเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องมีสำหรับเว็บไซต์ที่ต้องการรับรองความปลอดภัยในการสื่อสารระหว่างผู้ใช้งานกับเว็บไซต์

การใช้งาน SSL Certificate จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดการถูกแฮ็กหรือการลักลอบดักจับข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานผ่านเว็บไซต์ เพราะ SSL Certificate จะช่วยเข้ารหัสข้อมูลที่ถูกส่งไปยังเว็บไซต์และไม่ให้ผู้อื่นสามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นได้

SSL Certificate มีประโยชน์มากมายต่อการดำเนินการของเว็บไซต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับการรับส่งข้อมูลส่วนบุคคลหรือการทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ ซึ่งประโยชน์ที่สำคัญมีดังนี้

เพิ่มความปลอดภัยในการสื่อสาร: SSL Certificate ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับการสื่อสารระหว่างผู้ใช้งานกับเว็บไซต์ โดยเข้ารหัสข้อมูลที่ถูกส่งระหว่างเครื่องผู้ใช้งานกับเว็บไซต์ จึงทำให้ไม่สามารถถูกดักรับข้อมูลได้โดยง่าย

สร้างความเชื่อถือในตลาด: SSL Certificate เป็นสัญลักษณ์ที่ช่วยเพิ่มความเชื่อถือในตลาด โดยผู้ใช้งานจะมีความมั่นใจว่าเว็บไซต์ที่เข้าใช้งานเป็นเว็บไซต์ที่มีความปลอดภัยและมีการรับรองตัวตน

ช่วยป้องกันการปลอมแปลงเว็บไซต์: SSL Certificate ช่วยป้องกันการปลอมแปลงเว็บไซต์ โดยให้ผู้ใช้งานเว็บไซต์ตรวจสอบสัญลักษณ์การรับรองตัวตนก่อนที่จะเชื่อมต่อเข้าสู่เว็บไซต์ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการโดนการแฝงโทรจันหรือการหลอกลวงผู้ใช้งาน

ป้องกันการโจมตีแบบ Man-in-the-middle: SSL Certificate ช่วยป้องกันการโจมตีแบบ Man-in-the-middle

Have something more custom in mind? Get A Quote

ใบรับรอง SSL GeoTrust

GeoTrust เป็นหนึ่งในแบรนด์ความปลอดภัยบนเว็บที่น่าเชื่อถือที่สุดในโลก ด้วยการมุ่งเน้นที่เฉียบคมในโซลูชันการเข้ารหัสระดับธุรกิจ GeoTrust เหมาะอย่างยิ่งสำหรับบริษัทหรือองค์กรใดๆ ที่ต้องการรักษาความปลอดภัยเว็บไซต์ในขณะที่อยู่ในงบประมาณ

ใบรับรอง SSL DigiCert

DigiCert ขจัดความยุ่งยากด้วย PKI และทำให้ SSL/TLS ง่ายขึ้น เป็นหนึ่งในผู้ออกใบรับรองที่น่าเชื่อถือและน่าเชื่อถือที่สุดในโลก การตรวจสอบความถูกต้องของ DigiCert สมบูรณ์แบบ ลงทุนหลายล้านในโครงสร้างพื้นฐานทุกปี ขับเคลื่อนแบรนด์ Norton™ และยังคงอยู่ในระดับแนวหน้าของการเข้ารหัสหลังควอนตัม IoT และบล็อกเชน ด้วยแพลตฟอร์มการจัดการใบรับรองระดับโลก CertCentral®และผลิตภัณฑ์ SSL/TLS ระดับแนวหน้าที่มีชุดรักษาความปลอดภัยเว็บไซต์ที่สมบูรณ์ มีเหตุผลที่ Fortune 100 ไว้วางใจ DigiCert ในการรักษาความปลอดภัยข้อมูลประจำตัวของตน

ใบรับรอง SSL ของ Thawte

ใช้ข้อได้เปรียบที่ชื่อเสียงระดับโลกในด้านความปลอดภัยของเว็บไซต์จะมอบให้ Thawte ได้สร้างชื่อเสียงที่ไม่มีใครเทียบได้ในด้านความน่าเชื่อถือและความน่าเชื่อถือมานานกว่า 17 ปี โดยเป็นผู้ออกใบรับรองรายแรกในการขายใบรับรอง SSL ในระดับสากล และยังคงมุ่งเน้นเฉพาะที่ใบรับรองดิจิทัลเพื่อช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคต่อไป

ใบรับรอง RapidSSL

RapidSSL เป็น CA ที่เคารพนับถือซึ่งให้ความสำคัญกับความเร็ว กระบวนการออกอัตโนมัติที่รวดเร็วและรวดเร็วหมายความว่าคุณสามารถซื้อ SSL และออกให้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที

ใบรับรอง Sectigo SSL

ตอนนี้ Comodo จะเป็นที่รู้จักในนาม Sectigo ต่อไป แต่ชื่อเป็นสิ่งเดียวที่เปลี่ยน นั่นเป็นเพราะไม่กี่แบรนด์ในอุตสาหกรรมความปลอดภัยของเว็บที่สามารถอวดประวัติย่อแบบที่ Comodo/Sectigo มีได้ ด้วยใบรับรองดิจิทัลมากกว่า 100,000,000 ใบที่ออกในกว่า 150 ประเทศ Comodo/Sectigo ครองส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 40% และตัวเลขดังกล่าวยังคงเพิ่มขึ้นทุกวัน Comodo/Sectigo มีความก้าวร้าวและคล่องตัวสูง สามารถติดตามเทรนด์การรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัย หากบริษัทของคุณกำลังมองหาโซลูชันการรักษาความปลอดภัยที่สมบูรณ์แบบซึ่งตรงกับความต้องการ ในขณะเดียวกันก็ปรับให้เข้ากับชื่อแบรนด์ที่ผู้คนเชื่อถือ—คุณไม่มีทางผิดพลาดกับ Comodo/Sectigo

ใบรับรอง SSL Comodo

Comodo ซึ่งขับเคลื่อนโดย Sectigo นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ทั้งหมดนี้มีระดับการตรวจสอบ การรับประกัน และคุณสมบัติเพิ่มเติมที่แตกต่างกัน Comodo มั่นใจว่าจะมีโซลูชันการรักษาความปลอดภัยที่สมบูรณ์แบบสำหรับบริษัทหรือองค์กรใดๆ

Trusted by Brands Worldwide

In hac habitasse platea dictumst. Vivamus adipiscing fermentum quam volutpat aliquam.

Integer et elit eget elit facilisis tristique. Nam vel iaculis mauris. Sed ullamcorper tellus erat, non ultrices sem tincidunt euismod.

SSL Certificate คืออะไร?

SSL Certificate (Secure Sockets Layer Certificate) เป็นไฟล์ที่ใช้ในการรับรองความปลอดภัยของเว็บไซต์ ทำหน้าที่เข้ารหัสข้อมูลระหว่างเว็บเบราว์เซอร์และเว็บเซิร์ฟเวอร์ เพื่อป้องกันการแฮกเกอร์หรือการจัดการข้อมูลที่ไม่ได้รับอนุญาต เมื่อมี SSL Certificate บนเว็บไซต์ จะมีเครื่องหมายเล็กๆ ที่แสดงในแถบที่อยู่ของเว็บเบราว์เซอร์ เช่น ลูกศรสีเขียวหรือเล็กๆ ที่บอกว่า “Secure” หรือ “https” แทนการเชื่อมต่อปกติที่ไม่มี SSL Certificate ที่จะมีแค่เครื่องหมาย “http” ในแถบที่อยู่ของเว็บเบราว์เซอร์ ซึ่งจะเป็นเว็บไซต์ที่ไม่ปลอดภัยและเสี่ยงต่อการถูกแฮกเกอร์ได้ง่ายขึ้นไปกว่าเว็บไซต์ที่มี SSL Certificate

การทำงานของ SSL Certificate คืออะไร?

SSL Certificate ทำงานโดยใช้โปรโตคอล SSL (Secure Sockets Layer) หรือโปรโตคอล TLS (Transport Layer Security) เพื่อเชื่อมต่อและเข้ารหัสข้อมูลระหว่างเว็บเบราว์เซอร์ของผู้ใช้และเว็บไซต์ที่ผู้ใช้เข้าชม การเข้ารหัสข้อมูลจะทำให้ข้อมูลที่ถูกส่งไปและกลับระหว่างผู้ใช้และเว็บไซต์นั้นๆ ไม่สามารถถูกอ่านหรือแก้ไขได้โดยบุคคลภายนอกที่ไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้ SSL Certificate ยังช่วยยืนยันตัวตนของเว็บไซต์ที่ผู้ใช้เข้าชมว่าเป็นเว็บไซต์ที่ถูกต้องและได้รับการรับรองโดยองค์กรที่มีสิทธิ์ ซึ่งเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานว่าไม่มีผู้ไม่หวังดีที่จะปลอมแปลงเว็บไซต์เพื่อหลอกลวงผู้ใช้งาน โดย SSL Certificate จะมีหมายเลขการรับรอง (Certificate Authority or CA) ในการยืนยันตัวตนของเว็บไซต์ที่ผู้ใช้เข้าชมว่าเป็นถูกต้องและไว้วางใจได้ นอกจากนี้ SSL Certificate ยังช่วยป้องกันการโจมตีด้วยการเข้าถึงข้อมูลที่ส่งผ่านทางเครือข่ายจากบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้งาน ซึ่งจะช่วยป้องกันการละเมิดความเป็นส่วนตัวและการกระทำที่ไม่เหมาะสมอื่นๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้.

จะได้รับ SSL Certificate จากใคร?

SSL Certificate สามารถได้รับจากบริษัทผู้ให้บริการ SSL Certificate ซึ่งมีหลายบริษัทให้บริการทั่วโลก เช่น Comodo, DigiCert, Symantec, GlobalSign และอื่น ๆ นอกจากนี้ ยังมีบริการ SSL Certificate จากผู้ให้บริการโฮสติ้งเว็บ (Web Hosting) ด้วย โดยบริการจะมีการรวบรวม SSL Certificate และจัดการให้กับลูกค้าของเขาเอง การเลือกใช้บริการจะขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้งานและงบประมาณที่มีอยู่ของแต่ละบุคคลหรือองค์กร

SSL Certificate มีอายุกี่ปี?

การต่ออายุ SSL Certificate สามารถทำได้ตามที่ผู้ให้บริการ SSL กำหนดไว้ ซึ่งอายุของ SSL Certificate อาจแตกต่างกันไปตามแต่ละผู้ให้บริการ แต่มักจะอยู่ระหว่าง 1 ถึง 3 ปี โดยที่หลังจากหมดอายุผู้ใช้งานจะต้องต่ออายุ SSL Certificate เพื่อให้ได้รับการรับรองตัวตนใหม่อีกครั้ง

มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการติดตั้ง SSL Certificate หรือไม่?

การติดตั้ง SSL Certificate บนเว็บไซต์อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมตามผู้ให้บริการ SSL Certificate แต่ละราย เนื่องจากมีการตรวจสอบความถูกต้องและออก Certificate จากการออก SSL Certificate Authority (CA) ที่เป็นองค์กรที่ได้รับการรับรองว่ามีความปลอดภัยและไว้วางใจจากเบราว์เซอร์ อีกทั้งยังต้องมีค่าใช้จ่ายในการรักษา SSL Certificate ให้มีความปลอดภัยตลอดเวลา โดยอัตโนมัติ ซึ่งสามารถติดตามและตรวจสอบได้ผ่านบริการของผู้ให้บริการ SSL Certificate นั้นๆ

SSL Certificate สามารถถูกแฮ็กได้หรือไม่?

SSL Certificate ไม่สามารถถูกแฮ็กได้โดยตรง เพราะ SSL Certificate เป็นการเข้ารหัสข้อมูลที่เชื่อมต่อระหว่างเว็บไซต์กับผู้ใช้งาน แต่ถ้ามีช่องโหว่ทางความปลอดภัยในระบบเซิร์ฟเวอร์หรือการส่งข้อมูลจากเว็บไซต์ไปยังผู้ใช้งานผ่าน SSL อาจทำให้ข้อมูลถูกแฮ็กได้ ดังนั้น การตรวจสอบและปรับปรุงความปลอดภัยให้กับระบบเซิร์ฟเวอร์และการใช้งาน SSL Certificate อย่างถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงในการถูกแฮ็กของเว็บไซต์ลงโดยมาก

SSL Certificate จะช่วยป้องกันการโจมตีได้อย่างไร?
  1. Man-in-the-middle attack: SSL Certificate ช่วยป้องกันการโจมตี Man-in-the-middle attack ซึ่งเป็นการแอบฟังข้อมูลหรือการปลอมแปลงข้อมูลที่ส่งผ่านการเชื่อมต่อที่ไม่ปลอดภัย โดย SSL Certificate จะเข้ารหัสข้อมูลที่ส่งผ่านการเชื่อมต่อให้เป็นรหัสที่ไม่สามารถอ่านได้ง่าย เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่แอบฟังข้อมูลหรือปลอมแปลงข้อมูลได้กลายเป็นผู้รับ-ส่งข้อมูลกับเครื่องคุณเอง

  2. Phishing: SSL Certificate ช่วยป้องกันการโจมตีแบบ Phishing ที่ผู้ไม่ประสงค์ดีจะใช้เว็บไซต์เกลียดชอบโจมตีให้มีลักษณะคล้ายกับเว็บไซต์ที่ผู้ใช้งานเชื่อถือ โดย SSL Certificate จะช่วยตรวจสอบตัวตนของเว็บไซต์ให้แน่ใจว่าเป็นเว็บไซต์ที่ถูกต้องและปลอดภัย

  3. การโจมตีแบบ DDOS: SSL Certificate ช่วยป้องกันการโจมตีแบบ DDOS ที่ผู้ไม่ประสงค์ดีจะโจมตีเว็บไซต์ด้วยการส่งข้อมูลจำนวนมากเพื่อทำให้เว็บไซต์หยุดทำงาน โดย SSL Certificate จะช่วยกรองข้อมูลที่เข้ามาเพื่อป้องกันการโจมตีด้วยการกระจายศูนย์กลาง (DDOS Attack)

  4. การแฮ็ก: SSL Certificate ช่วยป้องกันการโจมตีจากผู้ไม่ประสงค์ดีที่จะโจมตีเว็บไซต์ด้วยวิธีการแฮ็กโดยการเข้าถึงข้อมูล

ทำไมต้องใช้ SSL Certificate?

การใช้ SSL Certificate สามารถมีประโยชน์ให้กับเว็บไซต์หลายด้าน ดังนี้

  1. การรักษาความปลอดภัยของข้อมูล: SSL Certificate ช่วยรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่ถูกส่งไปยังเว็บไซต์ โดยการเข้ารหัสข้อมูลเพื่อป้องกันการถูกดักจับหรือดักร้ายจากผู้ไม่หวังดี ทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจว่าข้อมูลส่วนตัวของตนจะไม่ถูกแฮกและนำไปใช้งานโดยไม่ได้รับอนุญาต

  2. การเพิ่มความเชื่อถือในเว็บไซต์: SSL Certificate ช่วยเพิ่มความเชื่อถือในเว็บไซต์ของคุณ โดยเมื่อมีการติดตั้ง SSL Certificate บนเว็บไซต์ของคุณ ผู้ใช้งานจะเห็นตัวเลขและรูปปุ่มล็อกที่แสดงในแถบที่อยู่ของเบราว์เซอร์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการใช้งาน SSL ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้งานมีความมั่นใจในการเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ของคุณ

  3. การป้องกันการปลอมแปลงเว็บไซต์: SSL Certificate ช่วยป้องกันการปลอมแปลงเว็บไซต์ โดย SSL Certificate จะรับรองตัวตนของเว็บไซต์และจะเชื่อมต่อผู้ใช้งานไปยังเว็บไซต์ที่ถูกต้อง และไม่ใช่เว็บไซต์ปลอมแปลงที่จะเอาชนะผู้ใช้งาน

  4. การเพิ่มความไว้วางใจของผู้ใช้งาน: SSL Certificate ช่วยเพิ่มความไว้วางใจของผู้ใช้งานสำหรับเว็บไซต์จำเป็นมากในยุคปัจจุบันเพราะมีการเกิดการแฝงภัยคุกคามออนไลน์ที่หลากหลาย การใช้ SSL Certificate เป็นหนึ่งในวิธีการเพิ่มความไว้วางใจของผู้ใช้งาน โดยมีผลต่อการป้องกันการแฝงข้อมูลและการทำธุรกรรมที่เป็นความลับ การติดตั้ง SSL Certificate บนเว็บไซต์จะเป็นการเข้ารหัสข้อมูลที่ผ่านการส่งผ่านข้อมูลระหว่างเว็บไซต์และผู้ใช้งาน ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานสามารถมั่นใจได้ว่าข้อมูลของตนจะไม่ถูกแฝงและถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งนี้ยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ของคุณ ทำให้ผู้ใช้งานมีความเชื่อมั่นในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของตนให้กับเว็บไซต์ของคุณ

มีกี่ประเภทของ SSL Certificate แต่ละประเภทต่างกันอย่างไร?

มีประเภทของ SSL Certificate หลายประเภท แต่ละประเภทจะมีลักษณะและระดับความปลอดภัยที่แตกต่างกันไปดังนี้:

  1. Domain Validated (DV) SSL Certificate: ประเภทนี้ตรวจสอบและรับรองเฉพาะโดเมนเนมเท่านั้น โดยให้การรับรองโดยตรวจสอบว่าผู้ขอใช้งานเป็นเจ้าของโดเมนเนมนั้นๆ โดยใช้วิธีการส่งอีเมลหรือการอัพโหลดไฟล์บนเว็บไซต์เพื่อยืนยันสิทธิ์

  2. Organization Validated (OV) SSL Certificate: ประเภทนี้ตรวจสอบและรับรองโดเมนเนมและข้อมูลองค์กร โดยต้องผ่านการตรวจสอบเอกสารและสิทธิ์ของบุคคลภายในองค์กร ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งาน

  3. Extended Validation (EV) SSL Certificate: ประเภทนี้ตรวจสอบและรับรองโดเมนเนมและข้อมูลองค์กร โดยต้องผ่านการตรวจสอบเอกสารและสิทธิ์ของบุคคลภายในองค์กร รวมถึงตรวจสอบความเป็นจริงขององค์กร โดยปกติแล้ว SSL Certificate ประเภทนี้จะแสดงตัวบอกชื่อบริษัทหรือองค์กรบนแถบที่อยู่ของเว็บเบราว์เซอร์

  4. Wildcard SSL Certificate: ประเภทนี้ให้การรับรอง SSL สำหรับโดเมนเนมหลาย ๆ Sub Domain โดยโดเมนเนมในโดเมนเดียวกัน ซึ่งช่วยประหยัดเวลาในการยืนยันการขอใบ Certificate

ต้องทำอย่างไรเพื่อติดตั้ง SSL Certificate บนเว็บไซต์ของฉัน?

ต้องการเข้าใจเกี่ยวกับการติดตั้ง SSL Certificate บนเว็บไซต์ของฉันต้องทำอย่างไร

หลังจากได้รับ SSL Certificate จากผู้ออกใบรับรอง SSL (CA) แล้ว จะต้องมีขั้นตอนการติดตั้งบนเว็บไซต์ของเราดังนี้

  1. สร้าง Certificate Signing Request (CSR) โดยใช้โปรแกรมที่เว็บโฮสติ้งบริการ提供หรือตัว OpenSSL ซึ่งจะถูกใช้เพื่อสร้างคู่กุญแจสาธารณะและส่วนตัว

  2. ส่ง CSR ไปยังผู้ออกใบรับรอง SSL (CA) เพื่อขอรับ SSL Certificate

  3. รับ SSL Certificate จากผู้ออกใบรับรอง SSL (CA) และดาวน์โหลดไฟล์ SSL Certificate

  4. ติดตั้ง SSL Certificate บนเว็บไซต์ของเรา โดยการอัพโหลดไฟล์ SSL Certificate ไปยังเซิร์ฟเวอร์

  5. กำหนดการตั้งค่า SSL Certificate บนเว็บไซต์ โดยการเชื่อมต่อ SSL Certificate กับคู่กุญแจส่วนตัวและดำเนินการตั้งค่า HTTPS ให้เว็บไซต์

  6. ทดสอบ SSL Certificate โดยใช้เบราว์เซอร์ เพื่อตรวจสอบว่าการติดตั้ง SSL Certificate บนเว็บไซต์เราสมบูรณ์แล้วหรือไม่

ในบางกรณี บางผู้ให้บริการโฮสติ้งเว็บไซต์อาจมีบริการติดตั้ง SSL Certificate ให้เลือกใช้งาน ซึ่งทำให้ง่ายต่อการติดตั้ง SSL Certificate บนเว็บไซต์ของเราเพิ่มเติม

การต่ออายุ SSL Certificate ทำอย่างไร?

การต่ออายุ SSL Certificate นั้นทำได้โดยการขอการออก Certificate ใหม่จากผู้ออก Certificate (Certificate Authority) เดิมที่เราได้ขอ Certificate ไปแล้ว โดยมีขั้นตอนดังนี้

  1. เช็ควันหมดอายุของ SSL Certificate เดิม โดยสามารถเช็คได้ในหน้าจัดการ SSL Certificate ของผู้ให้บริการ SSL Certificate ที่เราได้ใช้งานอยู่

  2. ขอ Certificate ใหม่จากผู้ออก Certificate เดิม โดยติดต่อผู้ออก Certificate และขอ Certificate ใหม่โดยระบุว่าต้องการต่ออายุ Certificate

  3. ผู้ออก Certificate จะตรวจสอบและออก Certificate ใหม่ให้เรา โดยจะมีข้อมูลเดิมที่เราใช้ในการขอ Certificate เดิมอยู่แล้ว ไม่ต้องกรอกข้อมูลใหม่

  4. นำ Certificate ใหม่ที่ได้รับมา นำมาติดตั้งให้กับเว็บไซต์ของเราแทน Certificate เดิมที่หมดอายุแล้ว

โดยการต่ออายุ SSL Certificate นั้นไม่ต้องทำการติดตั้งใหม่ทั้งหมด เพียงแค่ขอ Certificate ใหม่เท่านั้น แต่หาก SSL Certificate เดิมหมดอายุมานานเกินไป อาจจะต้องทำการติดตั้งใหม่ทั้งหมดเพื่อให้ได้ SSL Certificate ใหม่ที่มีวันหมดอายุใหม่

การตรวจสอบ SSL Certificate ทำอย่างไร?

การตรวจสอบ SSL Certificate เป็นการตรวจสอบว่าหน่วยงานหรือเว็บไซต์ที่เราเข้าใช้งานมี SSL Certificate ที่ถูกต้องและมีความปลอดภัยหรือไม่ โดยสามารถทำได้โดยใช้เบราว์เซอร์หรือเครื่องมือต่างๆ ดังนี้

  1. ใช้เบราว์เซอร์: หากเว็บไซต์มี SSL Certificate ที่ถูกต้อง จะมีสัญลักษณ์ล็อกเล็กๆ ที่ปรากฏขึ้นบนแถบที่ใช้เข้าร่วมกับ URL เว็บไซต์ ซึ่งจะแสดงว่าการเชื่อมต่อถูกเข้ารหัสและปลอดภัย หากไม่มีสัญลักษณ์ดังกล่าว อาจแสดงว่าเว็บไซต์นั้นไม่มี SSL Certificate หรือมี SSL Certificate ที่ไม่ถูกต้อง
  2. ใช้เครื่องมือตรวจสอบ SSL Certificate: สามารถใช้เครื่องมือต่างๆ เช่น SSL Checker หรือ SSL Shopper เพื่อตรวจสอบ SSL Certificate ของเว็บไซต์ได้ โดยเครื่องมือจะแสดงข้อมูลเกี่ยวกับการรับรองตัวตนของเว็บไซต์และข้อมูลเกี่ยวกับ SSL Certificate เช่น ชื่อและที่อยู่ของหน่วยงานที่ออก SSL Certificate วันที่หมดอายุ รวมถึงอื่นๆ

การตรวจสอบ SSL Certificate เป็นสิ่งสำคัญในการตรวจสอบความปลอดภัยของเว็บไซต์ และเพื่อป้องกันการโจมตีแบบ Man-in-the-middle ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ดังนั้น การตรวจสอบ SSL Certificate ควรทำเป็นระยะๆ เพื่อรักษาความปลอดภัยของของเว็บไซต์

SSL Certificate สามารถใช้ได้กับทุกเว็บไซต์หรือไม่?

SSL Certificate สามารถใช้ได้กับทุกเว็บไซต์ที่ต้องการเพิ่มความปลอดภัยให้กับการเชื่อมต่อของผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ขนาดใหญ่หรือเล็ก แต่อย่างไรก็ตามการเลือกใช้ SSL Certificate แตกต่างกันไปตามประเภทของ Certificate และเป้าหมายการใช้งานของเว็บไซต์ อย่างไรก็ตามในบางกรณี เช่น การใช้งาน SSL Certificate ในเครือข่ายองค์กร อาจต้องมีการติดตั้งให้กับทุกอุปกรณ์ภายในเครือข่ายก่อน ดังนั้นการเลือกใช้ SSL Certificate ควรพิจารณาด้วยความรอบคอบกับเป้าหมายการใช้งานของเว็บไซต์และความเหมาะสมกับความต้องการของผู้ใช้งาน.

Recent Work

In hac habitasse platea dictumst. Vivamus adipiscing fermentum quam volutpat aliquam. Integer et elit eget elit facilisis.

Internet of Things (IOT) คืออะไร?

Internet of Things (IOT) คืออะไร?

Internet of Things คือเครือข่ายของอุปกรณ์ที่รวบรวม วิเคราะห์ และแจกจ่ายข้อมูลเพื่อปรับปรุงวิธีที่เราเชื่อมต่อถึงกัน โลกรอบตัวเราและสภาพแวดล้อมของเรา

Network topology คืออะไร ?

Network topology คืออะไร ?

Network topology (โทโพโลยีเครือข่าย) คือโครงสร้างทอพอโลยีของเครือข่ายและอาจอธิบายได้ทางกายภาพหรือทางตรรกะ เป็นการประยุกต์ใช้ทฤษฎีกราฟที่อุปกรณ์

ทุกสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพกลไกค้นหา (SEO)

ทุกสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพกลไกค้นหา (SEO)

ทุกสิ่งที่คุณต้องการทราบเกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพกลไกค้นหา (SEO) การเพิ่มประสิทธิภาพกลไกค้นหาเป็นกลยุทธ์พื้นฐานสำหรับธุรกิจในการรับประโยชน์สูงสุด

Phishing (ฟิชชิ่ง) คืออะไร

Phishing (ฟิชชิ่ง) คืออะไร

Phishing (ฟิชชิ่ง) คือการหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต โดยผู้กระทำความผิดจะหลอกให้ผู้ใช้เปิดเผยข้อมูลส่วนตัว เช่น รหัสผ่าน รายละเอียดบัญชีธนาคาร หรือหมายเลขบัตร

VPN คืออะไร ?

VPN คืออะไร ?

VPN หรือ Virtual Private Network หรือ เครือข่ายเสมือน คือตัวขยายเครือข่ายส่วนตัวผ่านเครือข่ายสาธารณะ และช่วยให้ผู้ใช้สามารถส่งและรับข้อมูลผ่านเครือข่ายสาธ

SEO คืออะไร และทำงานอย่างไร

SEO คืออะไร และทำงานอย่างไร

SEO คืออะไรและทำงานอย่างไร นี่เป็นเพียงไม่กี่คำที่ผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO ในอุตสาหกรรมใช้ทุกวัน แต่ถ้าคุณเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กหรือเพิ่งเริ่มใช้งานในอุตสาห

Time to live (TTL) คืออะไร

Time to live (TTL) คืออะไร

Time to live (TTL) คือ ระยะเวลาหรือ "hops" ที่แพ็กเก็ตถูกตั้งค่าให้อยู่ภายในเครือข่ายก่อนที่จะทิ้งโดยเราเตอร์ TTL ยังใช้ในบริบทอื่นๆ รวมถึงการแคชCDNและการแคช DNS TTL ทำงานอย่างไร เมื่อมีการสร้างและส่งออกแพ็กเก็ตข้อมูลผ่านทางอินเทอร์เน็ต...

Traceroute คืออะไร

Traceroute คืออะไร

Traceroute เป็นเครื่องมือวินิจฉัยเครือข่ายที่ใช้ในการติดตามเส้นทางแบบเรียลไทม์ที่ส่งโดยแพ็กเก็ตบนเครือข่าย IP จากต้นทางไปยังปลายทาง โดยรายงานที่อยู่ IP ของเราเตอร์ทั้งหมดที่ส่ง Ping ระหว่างนั้น Traceroute...

Firewall คืออะไร

Firewall คืออะไร

Firewall คือ อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยเครือข่ายที่ตรวจสอบและกรองการรับส่งข้อมูลเครือข่ายขาเข้าและขาออกตามนโยบายความปลอดภัยที่กำหนดไว้ก่อนหน้า

|
In hac habitasse platea dictumst. Vivamus adipiscing fermentum quam volutpat aliquam. Integer et elit eget elit facilisis tristique. Nam vel iaculis mauris. Sed ullamcorper tellus erat, non ultrices sem tincidunt euismod. Fusce rhoncus porttitor velit, eu bibendum nibh aliquet vel. Fusce lorem leo, vehicula at nibh quis, facilisis accumsan turpis.

– Ali Sayed

ติดต่อเราได้ที่นี่

ติดต่อเราเพื่อพูดคุย สอบถาม หรือขอใบเสนอราคาได้ที่

แชร์ไปให้เพื่อนสิ

[seed_social]

หรือกรอกแบบฟอร์ม เพื่อให้ทีมงานติดต่อกลับ